รายละเอียดโครงการวิจัย

ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) :
การศึกษาการยับยั้งการติดเชื้อไวรัสเริมของสมุนไพรและการพัฒนาครีม
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) :
ThestudyofinhibitoryactivitiesofherbsinHerpesSimplexVirusesand thedevelopmentofherbalcreams
หน่วยงานเจ้าของโครงการ :
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ลักษณะโครงการวิจัย :
โครงการวิจัยเดี่ยว
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย :
ไม่อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย
ประเภทโครงการ :
โครงการวิจัยใหม่
วันเริ่มต้นโครงการ :
19 พฤศจิกายน 2556
วันสิ้นสุดโครงการ :
18 พฤศจิกายน 2557
ประเภทของการวิจัย :
งานวิจัยประยุกต์
ความสำคัญและที่มาของปัญหา :
         ปัจจุบันมนุษย์เริ่มกลับมาสนใจผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและเริ่มมีการตื่นตัวในการรักษาสุขภาพมากขึ้นเนื่องจาก สมุนไพรมีสรรพคุณมากมายสารเคมีในพืชมีฤทธิ์ป้องกันและต้านจุลินทรีย์ที่ก่อโรคขจัดสารพิษควบคุมระดับ ฮอร์โมนต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งหรือต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันอันเป็นสาเหตุในการ เกิดโรคมากมายซึ่งสมุนไพรจากธรรมชาติเหล่านี้มีความหลากหลายทางชีวภาพมากมายประเทศไทยถือได้ว่าเป็น แหล่งที่ระบบนิเวศมีความหลากหลายของพืชสมุนไพรมากมายประชาชนใช้ประโยชน์ในการดารงชีพรวมทั้งนามาใช้ บาบัดรักษาโรคมาเป็นระยะเวลานานชาวบ้านใช้สมุนไพรในการรักษาโรคซึ่งข้อมูลทางพฤกษศาสตร์พื้นบ้านจานวน มากยังไม่มีรายงานสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์สมุนไพรจึงเป็นที่สนใจในการศึกษาค้นคว้าวิจัยเนื่องจากในการรักษา โรคบางชนิดยาที่ใช้ต้องนาเข้ามาจากต่างประเทศมีราคาสูงยาที่ใช้เป็นสารสังเคราะห์ที่มีความรุนแรงในการใช้งาน เมื่อใช้เป็นเวลานานอาจเกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยทาให้เกิดสารตกค้างเกิดภาวะดื้อยา(พิสุทธิพร,2537)โดยเฉพาะ อย่างยิ่งในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือผู้ป่วยเอดส์จะมีภาวะการติดเชื้อฉวยโอกาสได้ง่ายเช่นเชื้อไวรัสก่อโรคเริม ปัจจุบันมีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะจากเชื้อไวรัสดังนั้นงานวิจัยนี้มุ่งศึกษาวิจัยยาต้านไวรัสเริมจาก สมุนไพรธรรมชาติที่มีฤทธิ์ข้างเคียงน้อยสมุนไพรจึงเป็นหนึ่งทางเลือกในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสเพื่อเป็นข้อมูลให้ ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสโดยเฉพาะไวรัสก่อโรคเริมซึ่งพบว่ามีอุบัติการณ์สูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อมีการติด เชื้อครั้งแรกอาจแสดงหรือไม่แสดงอาการของโรคแต่จะแฝงอยู่ในปมประสาทรอปัจจัยกระตุ้นต่างๆทั้งนี้ขึ้นกับ ภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลด้วยเหตุนี้จึงมีความจาเป็นที่ต้องมีการวิจัยและพัฒนายารักษาโรคติดเชื้อขึ้นใช้เองโดยพัฒนาจากรากฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่จะนาพืชสมุนไพรซึ่งข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้ประชาชนเข้าใจถึงประโยชน์โทษและการ รักษาเบื้องต้นของโรคติดเชื้อไวรัสอย่างถูกต้องเพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยมีข้อมูล ทางวิทยาศาสตร์สนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเองทางด้านยาและช่วยลดค่าใช้จ่ายใน การนาเข้าวัตถุดิบในการผลิตลดการนาเข้ายาจากต่างประเทศสนับสนุนเกษตรกรปลูกพืชสมุนไพรเป็นการสร้าง รายได้สู่ชุมชนทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงการค้าเพื่อเป็นการเสริมรายได้ต่อชุมชนอย่างถูกวิธีต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ :
1.เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของสมุนไพรบางชนิดเช่นโมกราชินีสังกรณีตาแยแมวโด่ไม่รู้ล้มและชะมวงในการยับยั้งการติดเชื้อไวรัสก่อโรคเริม 2.เพื่อศึกษาความคงตัว(stability)ของครีมสมุนไพรที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคเริมในระดับห้องปฏิบัติการ
ขอบเขตของโครงการ :
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยประยุกต์ที่มีขอบเขตของการวิจัยดังนี้ 1ประชากรที่ศึกษาคือพืชสมุนไพร 2ทดสอบการออกฤทธิ์ทางชีวภาพในการยับยั้งเชื้อก่อโรคเริมจากสารสกัดพืชสมุนไพร 3ช่วงเวลาของการวิจัยตั้งแต่เดือนตุลาคม2556–เดือนกันยายน2557 4ตัวแปรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ 4.1พืชสมุนไพรเช่นโมกราชินีสังกรณีตาแยแมวโด่ไม่รู้ล้มและชะมวง 4.2ฤทธิ์ต้านไวรัสเริมของพืชสมุนไพร ทฤษฎีสมมุติฐาน(ถ้ามี)และกรอบแนวความคิดของโครงการวิจัย Herpessimplexvirus(HSV)จัดอยู่ในFamilyHerpesviridaeSubfamilyAlphaherpesvirinae เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อบุหรือรอยถลอกบริเวณผิวหนังลักษณะรอยโรคจะมีตุ่มใส(vesicle)หรือ เป็นแผลมีอาการแสบคันอักเสบแดงร่างกายไม่สามารถกาจัดเชื้อออกจากร่างกายได้ไวรัสตระกูลนี้ทาให้เกิด การติดเชื้อแอบแฝง(latentinfection)ที่ปมประสาทเมื่อถูกกระตุ้นเช่นร่างกายเสียสมดุลเกิดภาวะเครียด การมีรอบเดือนไวรัสจะเพิ่มจานวนและทาให้เกิดการติดเชื้อซ้า(recurrentinfection)ซึ่งจะทาให้เกิดตุ่มน้าและ แผลขึ้นที่ผิวหนังเชื้อไวรัสก่อโรคเริมแบ่งเป็น2ชนิดคือชนิดที่1และชนิดที่2โดยHSV-1พบการติดเชื้อครั้ง แรกทาให้เกิดการอักเสบบริเวณเหงือกปากคอทอนซิลกระจกตาเยื่อบุตาเยื่อบุสมองส่วนการติดเชื้อซ้าพบที่ ริมฝีปากกระจกตาและสมองแต่การติดเชื้อHSV-2มักพบบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ โดยทั่วไปในการคิดค้นยาตัวใหม่ๆสาหรับโรคติดเชื้อไวรัสยานั้นต้องจาเพาะต่อจุลชีพโดยไม่เป็นพิษต่อ เซลล์หรือเป็นพิษน้อยที่สุดแต่เนื่องจากไวรัสเป็นจุลชีพขนาดเล็กที่ต้องอาศัยกลไกของhostcellที่ใช้สาหรับ สร้างสิ่งต่างๆที่ต้องการ(obligateintracellularparasite)ดังนั้นทาให้การรักษาเป็นไปได้ยากเนื่องจากยาอาจ ไม่ยับยั้งการเพิ่มจานวนของไวรัสแต่หยุดกลไกของhostcellปัจจุบันยังไม่มีการรักษาเริมให้หายขาดดังนั้นทา ได้เพียงบรรเทาอาการและยาที่ใช้เป็นพวกกึ่งสังเคราะห์ที่มีผลข้างเคียงค่อนข้างสูงและราคาแพงอีกทั้งในการ รักษาโรคเริมยาเหล่านี้ต้องนาเข้าจากต่างประเทศทาให้ต้นทุนการรักษาเพิ่มขึ้นผู้ป่วยบางรายอาจได้รับปริมาณ ยาไม่ครบdoseทาให้การรักษาเป็นไปยากขึ้นถ้าใช้เป็นเวลานานอาจเกิดอาการดื้อยาดังนั้นสมุนไพรจาก ธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพราะผลข้างเคียงและการสะสมสารตกค้างในร่างกายน้อยกว่าสารเคมีที่ใช้ใน การผลิตยาแม้ว่าสมุนไพรมีมากมายแต่มีการศึกษาการออกฤทธิ์ต่อHSVไม่มากนัก(ถนอมศรี,2537) งานวิจัยครั้งนี้จึงเลือกศึกษาสมุนไพรบางชนิดซึ่งยังไม่มีรายงานการวิจัยประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ ไวรัสก่อโรคเริมบริเวณผิวหนังดังนั้นการศึกษาวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาฤทธิ์ยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคเริมความคงตัวเพื่อ เป็นแนวทางสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชสมุนไพรมากขึ้นและใช้พืชสมุนไพรในการรักษาอาการโรคติดเชื้อไวรัส ก่อโรคเริมเพื่อเป็นการลดต้นทุนการนาเข้าสมุนไพรจากต่างประเทศส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรมีรายได้จากการ เพาะปลูกและเพิ่มผลผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรเพื่อใช้ในการรักษาโรคช่วยลดวัตถุดิบลดการนาเข้ายาจาก ต่างประเทศทั้งนี้เพื่อประโยชน์และเป็นทางเลือกใหม่ในการผลิตยาต้านไวรัสก่อโรคเริมจากสมุนไพรท้องถิ่นต่อไป
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :
1.เสนอผลงานวิจัยในงานประชุมสัมมนาวิชาการหรือตีพิมพ์งานวิจัยในวารสารทางวิชาการ 2.ได้ทราบสรรพคุณสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัสก่อโรคเริมทั้งนี้เพื่อเป็นการลดการนาเข้ายาจาก ต่างประเทศเกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรและเป็นการสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นส่งเสริมข้อมูลทาง พฤกษศาสตร์พื้นบ้านที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งโรคเริมเพิ่มมูลค่าความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อพัฒนายาต้านไวรัสเริม จากทรัพยากรท้องถิ่นมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เชิงการค้าเกษตรกรมีรายได้จากการปลูกพืชสมุนไพรเพื่อเป็น วัตถุดิบในการผลิตยารักษาโรคมีการกระจายรายได้สู่ชุมชนเกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง 3.สามารถนาการวิจัยนี้ไปเผยแพร่ให้แก่ประชาชนผู้สนใจเข้าใจโทษจากการติดเชื้อไวรัสอย่างถูกต้องและ สามารถใช้เป็นแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพรท้องถิ่นชนิดอื่นๆที่มีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ต้านไวรัส เริมและเป็นแนวทางในการพัฒนาใช้สมุนไพรเป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมบารุงร่างกายทั้งนี้เพื่อให้เกิดการ ประยุกต์พัฒนาพืชสมุนไพรท้องถิ่นอื่นๆอย่างถูกวิธีโดยใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนร่วมกับข้อมูลทาง พฤกษศาสตร์พื้นบ้าน
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล :
         1อุปกรณ์ 1.1ขวดเพาะเลี้ยงเซลล์หรือflaskขนาด25cm 1.2จานเพาะเลี้ยงเซลล์ขนาด24และ96หลุม 1.3ขวดDuranขนาด100,250,500และ1000ml 1.4หลอดทดลองขนาดเล็ก 1.5ขวดฝาดาขนาด15และ30ml 1.6บีกเกอร์ขนาด250,500,1000ml 1.7กระบอกตวงขนาด100และ500ml 1.8ปิเปตขนาด1,5,10ml 1.9อุปกรณ์กรองอาหารเลี้ยงเชื้อ 1.10Microcentrifugetube 1.11Pipettetip 1.12Sterilesyringe5ml 1.13กระดาษWhatmanNo.1 1.14แผ่นกระดาษกรองแบคทีเรียขนาด0.22และ0.45?m 2เครื่องมือ 2.1Invertedmicroscope 2.2Autoclave 2.3Hotairoven 2.4เครื่องชั่งอย่างละเอียด 2.5ตู้เย็น 2.6ตู้แช่แข็ง-20?Cและ-85?C 2.7ตู้incubator 2.8Autopipette 2.9Pipetteboy 2.10เครื่องRockingplatform 2.11เครื่องEvaporator 2.12เครื่องLyophilizer 2.13เครื่องVacuumpump 2.14เครื่องcentrifuge 3สารเคมี 1 PhosphateBufferedSaline(PBS) 2 1%Trypsin 3 %EDTA 4 0.1%Trypsin-EDTA 5 10%NaHCO 6 1.5%Sodiumcarboxymethylcellulose 7 0.1%Crystalvioletใน1%ethanol 8 95%และ75%alcohol 9 Sterilewater 10 Dimethylsulphoxide(DMSO) 11 MTTdye 4 อาหารเลี้ยงเชื้อ 1 Growthmedium(GMEM) 2 Maintenancemedium(MEM) 3 Overlaymedium 5 เชื้อไวรัสก่อโรคเริม(herpessimplexvirus)(ได้รับความอนุเคราะห์จากภาควิชาจุลชีววิทยาคลินิกคณะ เทคนิคการแพทย์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) 6 เซลล์เพาะเลี้ยง:verocells 7 สมุนไพรที่ใช้ในการทดสอบ:เช่นโมกราชินีสังกรณีตาแยแมวโด่ไม่รู้ล้มและชะมวง 8 สารที่ใช้ทดสอบในการต้านเชื้อจุลชีพ:Acyclovir(9-(2-Hydroxyethoxy)methyl-guanosine),gentamycin, streptomycin,penicillin
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) :
-
รายชื่อนักวิจัยในโครงการ :
ลำดับที่ รายชื่อ ประเภทนักวิจัย บทบาทหน้าที่ สัดส่วน
1 นางสาวเรณู อยู่เจริญ นักวิจัยภายในมหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการวิจัย 100%

สถาบันวิจัยและพัฒนา

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ศูนย์การศึกษาย่านมัทรี
398/1 หมู่ 3 ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี
จังหวัดนครสวรรค์ 60130

หมายเลขโทรศัพท์

056-219100 ต่อ 1139 งานวิจัย