รายละเอียดโครงการวิจัย

ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) :
จากเมืองพระบางสู่เมืองนครสวรรค์ : ในมุมมองหลักฐานทางประวัติศาสตร์
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) :
Transition of Phra Bang to Nakhon Sawan in view of historical evidence
หน่วยงานเจ้าของโครงการ :
สถาบันวิจัยและพัฒนา
ลักษณะโครงการวิจัย :
แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย :
ไม่ระบุ
ประเภทโครงการ :
โครงการวิจัยใหม่
วันเริ่มต้นโครงการ :
17 มกราคม 2565
วันสิ้นสุดโครงการ :
17 มกราคม 2566
ประเภทของการวิจัย :
การวิจัยพื้นฐาน
ความสำคัญและที่มาของปัญหา :
         เมืองนครสวรรค์เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณ ดังปรากฏร่องรอยการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยยุคหินใหม่เรื่อยมาจนถึงสมัยทวารวดีกระจัดกระจายในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา หลักฐานโบราณวัตถ โบราณสถานที่พบล้วนแสดงให้เห็นถึงการเข้ามาของพ่อค้าจากต่างถิ่น เพื่อทำการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างพื้นที่ตอนในกับพื้นที่ชายฝั่งทะเล จากความเจริญของการค้าระหว่างภูมิภาคได้ส่งผลให้ชุมชนเหล่านี้พัฒนาขึ้นเป็นบ้านเมืองในยุคต้นประวัติศาสตร์ เช่น แหล่งโบราณคดีบ้านจันเสน อำเภอตาคลี แหล่งโบราณคดีเมืองบนโคกไม้เดน อำเภอพยุหะคีรี และแหล่งโบราณคดีดงแม่นางเมือง อำเภอบรรพตพิสัย ที่สัมพันธ์กับชุมชนในพื้นที่เมืองอู่ทอง (จังหวัดสุพรรณบุรี) ออกแก้ว (เวียดนาม) และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (อาณาจักรฟูนัน กลุ่มชาติพันธุ์จาม) รวมถึงโบราณวัตถุอิทธิพลอารยธรรมอินเดีย ต่อมาในพุทธศตวรรษที่ 12-18 ละโว้ได้กลายเป็นชุมทางการค้าสำคัญในวัฒนธรรมขอม ได้ขยายอำนาจควบคุมการค้าระหว่างอ่าวเมาะตะมะกับลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ชุมชนในพื้นที่นครสวรรค์พัฒนาขึ้นเป็นบ้านเมืองและขยายตัวเข้าสู่พื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยที่ตั้งของตัวเมืองนครสวรรค์ปัจจุบันเริ่มปรากฏขึ้นบริเวณเขากบและชุมทางการค้าริมฝั่งแม่น้ำปิง อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของเมืองนครสวรรค์เริ่มปรากฏชัดขึ้นในสมัยสุโขทัย เมื่อจารึกหลักที่ 1 จารึกพ่อขุนรามคำแหง ได้กล่าวถึงชื่อเมืองพระบาง เป็นเมืองหนึ่งในกลุ่มเมืองภายใต้อำนาจรัฐสุโขทัยในปลายพุทธศตวรรษที่ 18 และเมืองพระบางได้ทวีความสำคัญในปลายพุทธศตวรรษที่ 19 - ต้นพุทธศตวรรษ 20 เมืองพระบางเป็นพื้นที่หนึ่งที่เผชิญกับการแผ่ขยายอำนาจจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง) จากอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาที่ต้องการขยายครอบครองเส้นทางการค้าตอนในซึ่งอยู่ในอำนาจของรัฐสุโขทัย (ดนัย ไชยโยธา, 2540 : 15-18) ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) ต้องส่งฑูตไปเจรจาเพื่อขอเมืองชัยนาทคืน และทรงเร่งกระชับอำนาจในเขตปกครอง เช่น ทรงสร้างและย้ายมาประทับที่เมืองนครชุม การสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองในหัวเมืองสำคัญ ประกอบด้วย เมืองสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัย เมืองบางพาน และเมืองพระบาง (http://www.db.sac.or.th วันที่สืบค้น 14 มีนาคม 2565) นับเป็นการย้ำความสำคัญของเมืองพระบางต่อการปกครองและเศรษฐกิจของสุโขทัยในการควบคุมเส้นทางการค้าของรัฐตอนในผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำปิง และลุ่มน้ำป่าสัก โดยมีสินค้าสำคัญคือ แร่เหล็ก แร่ทองแดง และของป่า ภายหลังการสวรรคตของพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) อำนาจรัฐสุโขทัยอ่อนแอลง บ้านเมืองต่าง ๆ แยกตัวเป็นอิสระ กระทั่งปี พ.ศ. 1962 เกิดการแย่งชิงราชสมบัติระหว่างพระยารามกับพระยาบาลเมืองที่เมืองพระบาง ในครั้งนั้นสมเด็จพระอินทราชาธิราชแห่งกรุงศรีอยุธยาทรงยกทัพขึ้นมามาคุมเชิงที่เมืองพระบางในฐานะเมืองปลายเขตแดนของกรุงศรีอยุธยา (กรมศิลปากร, 2504 : 4) และได้สถาปนาพระยาบาลเมืองเป็นพระมหาธรรมราชาที่ 4 ครองเมืองสุโขทัยนับเป็นการสิ้นสุดอำนาจรัฐสุโขทัยที่มีเหนือเมืองพระบาง (http://www.db.sac.or.th วันที่สืบค้น 14 มีนาคม 2565) การขยายตัวของการค้าระหว่างจีนและอินเดีย ทำให้บรรดาบ้านเมืองและรัฐต่าง ๆ ทำสงครามแย่งชิงดินแดนและสถาปนาอาณาจักรขึ้นบนผืนแผ่นดินใหญ่ในพุทธศตวรรษที่ 20-21 อาทิ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรพุกาม และอาณาจักรอยุธยา ส่งผลให้หัวเมืองเหนือกลายเป็นสมรภูมิรบระหว่างมหาอำนาจทั้ง 3 กระทั่งปี พ.ศ. 2006 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถย้ายมาประทับที่เมืองเมืองพิษณุโลก และจัดการปกครองหัวเมืองตามลำดับความสำคัญและขนาดของเมือง โดยเมืองพระบางได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองนครสวรรค์มีฐานะเป็นเมืองชั้นตรีมีบทบาทในการสงครามร่วมกับและเมืองพิจิตร เมืองพิชัย หัวเมืองชั้นโท เช่น เมืองกำแพงเพชร และเมืองสวรรคโลก (ดนัย ไชยโยธา, 2543 : 307) รวมถึงการเป็นเมืองประชุมพลในการทำสงครามระหว่างอาณาจักรพุกามกับกรุงศรีอยุธยามาจนสิ้นสมัยอยุธยา เห็นได้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองในพื้นที่นครสวรรค์ปรากฏตัวตนในประวัติศาสตร์นั้นมาจากปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ตอนในกับชายฝั่งทะเลจึงเป็นชุมทางการค้าสำคัญมาแต่โบราณ ประกอบกับภูมิศาสตร์ของเมืองเป็นที่ราบลุ่มอุดมสมบูรณ์และจุดรวมของแม่นำสายสำคัญจากลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่านทางตอนเหนือ และลุ่มน้ำป่าสักทางตะวันออก เชื่อมกับบ้านเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางจึงทำให้เมืองนครสวรรค์เป็นเมืองที่มีความโด่ดเด่นทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม งานวิจัย เรื่อง “จากเมืองพระบางสู่เมืองนครสวรรค์ : ในมุมมองหลักฐานทางประวัติศาสตร์” สมมติฐานว่า “เมืองนครสวรรค์ปรากฏชื่อเมืองในสมัยสุโขทัยว่าเมืองพระบาง แต่หากพิจารณาถึงร่องรอยโบราณวัตถุสถานกลับรูปแบบของงานศิลปกรรมสมัยอยุธยามากกว่าสมัยสุโขทัย” ดังนั้นการทำความเข้าใจในร่องรอยทางโบราณวัตถุสถานร่วมกับการวิเคราะห์หลักฐานทางประวัติศาสตร์จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการอธิบายความสำคัญและพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของเมืองนครสวรรค์ในฐานะชุมชนเมืองภายใต้อำนาจรัฐสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งงานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2579), ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ระยะ 20 ปี,ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ พ.ศ. 2561 – 2565 รวมไปถึง งานวิจัยชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการเป็นฐานข้อมูลในการดำเนินการตาม “แผนพลิกโฉมมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570)” ตามกรอบระยะเวลาและขั้นตอนการดำเนินการของกฎกระทรวงการจัดกลุ่ม สถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2564 ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบเลือกสังกัด กลุ่มที่ 3 พัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น (Area-Based and Community Engagement) เนื่องจากมีความโดดเด่นทั้งผลการดาเนินงานของสถาบันอุดมศึกษา (Performance) และศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษา(Potential) ที่จะสามารถพัฒนาสู่ความเป็นเลิศได้อย่างก้าวกระโดด การรับรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองนครสวรรค์ในปัจจุบันยังขาดการรวบรวมหลักฐานและการอธิบายหลักฐานให้สัมพันธ์กับบทบาทและความสำคัญของเมืองนครสวรรค์ในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา ส่งผลให้การรับรู้เรื่องราวความเป็นมาของท้องถิ่น ชุมชน อาจคลาดเคลื่อนหรือเลือนหายและถูกแทนที่ด้วยค่านิยมสมัยใหม่ทำให้การสืบทอดเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมแบบไร้ราก
วัตถุประสงค์ของโครงการ :
1. เพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวกับเมืองนครสวรรค์ในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา 2. อธิบายความสำคัญของเมืองนครสวรรค์ในสมัยสุโขทัยและอยุธยาจากกลักฐานทางประวัติศาสตร์
ขอบเขตของโครงการ :
งานศึกษาเรื่อง “จากเมืองพระบางสู่เมืองนครสวรรค์ในมุมมองหลักฐานทางประวัติศาสตร์” ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยกำหนดขอบเขตการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา ร่วมกับตำนานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับเมืองนครสวรรค์ และนำเสนอรายงานการวิจัย (Report of Research) โดยใช้วิธีการพรรณนาเชิงวิเคราะห์ (Descriptive Analysis) ตามระเบียบวิธีการทางประวัติศาสตร์ (History Method) โดยมีขอบเขตการศึกษาค้นคว้า ดังนี้ 1. ขอบเขตด้านแหล่งข้อมูล ในการศึกษาครั้งนี้ใช้ข้อมูลเอกสารเป็นข้อมูลหลักที่นำมาใช้ในการศึกษางานวิจัยครั้งนี้ โดยใช้ข้อมูลจากจารึก พระราชพงศาวดาร จดหมายเหตุ เอกสารจากส่วนราชการ กฎหมาย พระราชกำหนด ร่วมกับเอกสารชั้นรอง เช่น วิทยานิพนธ์ หนังสือ บทความวิชาการจากวารสารต่าง ๆ เพื่อนำข้อมูลที่มีผู้ศึกษาไว้มาวิเคราะห์ร่วมกันในการนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี วัฒนธรรม ในจังหวัดนครสวรรค์ในสมัยจารีต โดยใช้การนำเสนอแบบพรรณนาวิเคราะห์ (Descriptive Analysis) มาลำดับเหตุการณ์ตามช่วงเวลาเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ 2. ขอบเขตด้านเวลา การศึกษาครั้งนี้ให้ความสำคัญกับบทบาทของรัฐสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาที่มีต่อพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยแบ่งตามศูนย์กลางของอำนาจรัฐในแต่ละช่วงเวลา
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :
1.เพื่อศึกษาและรวบรวมข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวกับเมืองนครสวรรค์ในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา 2.อธิบายความสำคัญของเมืองนครสวรรค์ในสมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยาจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ 3.นำองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยไปเผยแพร่ในวารสารวิชาการระดับชาติ (TCI 1) และนำความรู้มาใช้ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาประวัติศาสตร์
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล :
         ในการดำเนินการวิจัย ผู้วิจัยใช้วิธีการศึกษาข้อมูลจากการศึกษาเอกสาร ได้แก่ ศึกษาเอกสารที่เป็นงานวิจัย ตำรา หนังสือ เอกสารประกอบการสัมมนาทางวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยนำข้อมูลที่ได้มาดำเนินการด้วย วิธีการทางประวัติศาสตร์ ดังนี้ -การวิเคราะห์และประเมินค่าหลักฐานภายนอก -การวิเคราะห์และประเมินค่าหลักฐานภายใน -การตีความหลักฐาน -การสังเคราะห์ข้อมูล -เรียบเรียงข้อมูล
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) :
เป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองนครสวรรค์ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มาจนถึงสมัยอยุธยา โดยอ้างอิงข้อมูลตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และตำนาน เพื่ออธิบายความสำคัญของเมืองนครสวรรค์ในแต่ละช่วงเวลา
รายชื่อนักวิจัยในโครงการ :
ลำดับที่ รายชื่อ ประเภทนักวิจัย บทบาทหน้าที่ สัดส่วน
1 นางพิมพ์อุมา ธัญธนกุล นักวิจัยภายในมหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการวิจัย 95%
2 นางสาวศิรินุช ครุฑธกะ นักวิจัยภายในมหาวิทยาลัย ผู้ร่วมวิจัย 5%

สถาบันวิจัยและพัฒนา

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ศูนย์การศึกษาย่านมัทรี
398/1 หมู่ 3 ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี
จังหวัดนครสวรรค์ 60130

หมายเลขโทรศัพท์

056-219100 ต่อ 1139 งานวิจัย