มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
สถาบันวิจัยและพัฒนา
ระบบจัดการงานวิจัย
NSRU
RESEARCH
หน้าหลัก
ค้นหารายการ
ข้อมูลงานวิจัย
ข้อมูลนักวิจัย
รายงานสถิติ
งานวิจัย
งานทรัพย์สินทางปัญญา
เข้าสู่ระบบ
รายละเอียดโครงการวิจัย
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) :
การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคางจังหวัดนครสวรรค์
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) :
Development of training courses for local youth guides that promote community lifestyle tourism in Khlongkhang village, Nakhon Sawan Province
หน่วยงานเจ้าของโครงการ :
สถาบันวิจัยและพัฒนา
ลักษณะโครงการวิจัย :
แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย :
ไม่ระบุ
ประเภทโครงการ :
โครงการวิจัยใหม่
วันเริ่มต้นโครงการ :
11 ธันวาคม 2562
วันสิ้นสุดโครงการ :
10 ธันวาคม 2563
ประเภทของการวิจัย :
การวิจัยและพัฒนา
ความสำคัญและที่มาของปัญหา :
ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว องค์ประกอบที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือมัคคุเทศก์ ซึ่งในปัจจุบันรัฐบาลมองเห็นถึงบทบาทและความสำคัญของมัคคุเทศก์ที่มีต่อระบบการท่องเที่ยว จึงได้มีการออกกฎหมายพระราชบัญญัติมัคคุเทศก์ปี พ.ศ. 2535 และในทางปฏิบัติ มัคคุเทศก์เป็นผู้ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวมากที่สุด และเป็นผู้นักท่องเที่ยวให้ความไวว้างใจซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความประทับใจหรือความไม่ประทับใจต่อการท่องเที่ยวได้ทั้งยังเป็นตัวแทนของประเทศ ดังนั้นหากมีมัคคุเทศก์ดีมีจรรยาบรรณ มี มารยาทและมีคุณธรรม การท่องเที่ยวของประเทศก็ย่อมดีด้วย เพราะนักท่องเที่ยวมีความรู้สึกประทับใจและมีความพึงพอใจในการท่องเที่ยวในท้องถิ่นนั้นๆนั้นและเกิดภาพพจน์ที่มีต่อประเทศที่เดินทางไปเยือน ฉะนั้น มัคคุเทศก์จึงมีหลายบทบาทในคนเดี่ยวกัน ตั้งแต่เป็นครูนักจิตวิทยา นักแสดง รวมทั้งนักการทูตด้วย มัคคุเทศก์ หรือ ไกด์มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจบริการท่องเที่ยว และจาก ประวัติศาสตร์ที่ได้มีการศึกษาค้นคว้าก็อาจกล่าวได้ว่า “มัคคุเทศก์” เป็นอาชีพหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดา อาชีพเก่า ๆ ของโลก เพราะมนุษย์เริ่มมีการท่องเที่ยวหรือการเดินทางมาเป็นเวลาช้านานแล้ว จะเห็นได้ว่าในสมัยแรกเริ่มมีผู้กล่าวถึงมัคคุเทศก์ในการเป็นผู้นำเที่ยว หรือผู้นำทาง ได้แก่ “ผู้เบิกทาง” (Pathfinders) “คนนำเที่ยว” (Bear leaders) “ตัวแทน” (Proxemos) และคนนำทางนักท่องเที่ยว ( Cicerones) ชุมชนวัดคลองคางตั้งอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลบึงเสนาท อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ทิศเหนือติดต่อกับบึงเสนาททิศตะวันตกติดต่อกับแม่น้ำปิง พื้นที่ตั้งชุมชนเป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำปิง สำหรับตำบลเสนาทเป็นที่อุดมสมบูรณ์ เป็นที่ราบลุ่ม มีบึงอยู่กลางเป็นที่เก็บน้ำไว้ให้ประชาชน ชาวชุมชนมีการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย โดยส่วนมากจะประกอบอาชีพเกษตรกร เช่น ปลูกผัก ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านคลองคางมีสถานที่สำคัญทางศาสนาคือวัดคลองคาง วัดคลองคางได้สร้างขึ้นเป็นวัดนับแต่วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2450 เดิมเรียกว่า วัดบึงเสนาทราษฎร์ศรัทธาธรรม ซึ่งที่วัดคลองคาง ได้มีพระสุทัศน์ ธรรมะธีโป รองเจ้าอาวาส ผู้ริเริ่มนำแพทย์แผนไทยมาให้บริการในวัดด้วยเห็นว่าพระส่วนใหญ่สุขภาพไม่ดี พระมีภาวะเจ็บป่วยบ่อย ท่านจึงไปดูต้นแบบการให้บริการด้านแพทย์แผนไทยที่วัดหนองหญ้านาง จังหวัดอุทัยธานี จึงได้เริ่มทำห้องอบสมุนไพรขึ้น เพื่อให้พระในวัดได้อบสมุนไพร ปัจจุบันเปิดให้ชาวบ้านและผู้สนใจเข้ามาใช้บริการ อบสมุนไพร และนอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มอาชีพนวดแผนไทย เปิดให้บริการซึ่งมีผู้สนใจจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วในพื้นที่ชุมชนยังได้มีตลาดท่าเรือคลองคาง อยู่บนพื้นที่ตำบลบึงเสนาท อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ท่าเรือเก่าหลังวัดคลองคาง เป็นตลาดวิถีชุมชนชาวบ้าน ที่มุ่งให้มีบรรยากาศที่มีความเป็นกันเอง เย็นสบายๆนั่งชิมอาหารรับลมริมแม่น้ำปิง ซึ่งตลาดดังกล่าวได้รับความนิยมมาก ดังจะเห็นได้ว่าในชุมชนบ้านคลองคาง ตำบลเสนาทมีพื้นที่และวิถีชีวิตเชิงวัฒนธรรมที่หลากหลายที่เป็นศักยภาพด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครสวรรค์ และเป็นการเพิ่มรายได้ให้ชาวชุมชนจากวิถีชีวิตของท้องถิ่น แต่อย่างไรก็ตามการมีผู้นำเที่ยว หรือมัคุเทศก์จะช่วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนาให้เด็กๆในท้องถิ่นให้ทำหน้าที่ในการเป็นผู้นำเที่ยว หรือเรียกว่ายุวชนมัคคุเทศก์ นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นแล้ว แล้วยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กๆมีความรักความภาคภูมิใจในท้องถิ่นช่วยให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่นที่ยั่งยืนต่อไป คณะผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคาง จังหวัดนครสวรรค์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ :
1. เพื่อศึกษาบริบทและศักยภาพของท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคางอย่างยั่งยืน 2. เพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคาง 3. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพและประเมินหลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคาง 4. เพื่อพัฒนาศักยภาพการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนในท้องถิ่นที่ใช้ในการส่งเสริมท้องถิ่นมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
ขอบเขตของโครงการ :
1.การวิจัยนี้มุ่งบริบทและศักยภาพของท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคางอย่างยั่งยืนใน4 ประเด็นดังนี้ 1) ด้านท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตชุมชน 2)ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 3) ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 4)การท่องเที่ยวเพื่อการนันทนาการ 2. การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนครอบคลุมเนื้อหาในด้านหลักการ วัตถุประสงค์ โครงสร้างเนื้อหา กิจกรรม สื่อและแหล่งการเรียนรู้ และการ วัดและประเมินผล 3. กลุ่มเป้าหมายในการพัฒนาและทดลองใช้หลักสูตรเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของหลักสูตรแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มเป้าหมายในขั้นตอนการพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ ผู้นำชุมชน ผู้บริหาร สถานศึกษา ครู ตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆในชุมชนบ้านคลองคาง 2)กลุ่มเป้าหมายในการทดลองใช้และศึกษาประสิทธิภาพของหลักสูตร คือ ยุวชนในชุมชนบ้านคลองคาง ซึ่งได้แก่ นักเรียนชั้น ประถม ศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดคลองคาง(แดงประชานุกูล) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครสวรรค์เขต
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :
1. ผลการวิจัยครั้งนี้จะทำให้ได้องค์ความรู้เกี่ยวกับบริบทและศักยภาพของท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคางอย่างยั่งยืนในด้าน1) ด้านท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตชุมชน 2) ด้านการ ท่องเที่ยวเชิง3) ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 4)การท่องเที่ยวเพื่อการนันทนาการ 2.ผลการวิจัยจะทำให้ได้หลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนที่มีประสิทธิภาพ จำนวน 1หลักสูตรที่ประกอบด้วย หลักการ วัตถุประสงค์ โครงสร้างเนื้อหา กิจกรรม สื่อและแหล่งการเรียนรู้ และการวัดและประเมินผล 3.ผลการวิจัยครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 4.ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการในระดับชาติกลุ่ม 1)หรือนานาชาติได้อย่างน้อย 1 บทความ
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล :
1. เก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรในด้านบริบทและศักยภาพของท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคางอย่างยั่งยืนใน 4 ประเด็นดังนี้ 1) ด้านท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตชุมชน 2) ด้านการ เที่ยวเชิงวัฒนธรรม 3) ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 4) การท่องเที่ยวเพื่อการนันทนาการ โดยการลงพื้นที่เพื่อการสัมภาษณ์ผู้นำชุมชน ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆในชุมชนบ้านคลองคาง จำนวน 20 คน จากนั้นทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) และสรุปเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม 2. ยกร่างหลักสูตรฝึกอบรมโดยใช้ข้อมูลด้านบริบทและศักยภาพของท้องถิ่น ประกอบกับใช้แนวคิดการพัฒนามัคคุเทศก์ การส่งเสริมสมรรถนะการเป็นมัคคุเทศก์ของยุวชนท้องถิ่นโดยการประชุมกลุ่ม (Focus Group) ผู้นำชุมชน ตัวแทนกลุ่มอาชีพ ครู และผู้บริหารโรงเรียนวัดคลองคาง (แดงประชานุกูล) จำนวน 12 คน จากนั้นปรับปรุงหลักสูตรตามข้อแนะนำ และจัดทำองค์ประกอบหลักสูตรฉบับสมบูรณ์ 3. นำหลักสูตรไปทดลองใช้เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของหลักสูตรโดยกลุ่มเป้าหมายในการทดลองใช้และศึกษาประสิทธิภาพของหลักสูตร คือ ยุวชนในชุมชนบ้านคลองคาง ซึ่งได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดคลองคาง(แดงประชานุกูล) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษานครสวรรค์เขต 1 จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหาจากข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและการสัมภาษณ์ 4. ประเมินคุณภาพหลักสูตร โดยการสัมภาษณ์ และการสอบถามจากกลุ่มผู้เกี่ยวข้องในการทดลองใช้หลักสูตร ได้แก่ ผู้นำชุมชน ครู นักเรียน และนักท่องเที่ยว จำนวน 50 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์เนื้อหา
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) :
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาบริบทและศักยภาพของท้องถิ่นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนบ้านคลองคาง 2) พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมยุวชนมัคคุเทศก์ท้องถิ่นฯ และ 3) ทดลองใช้และประเมินหลักสูตรฝึกอบรมฯ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมัคคุเทศก์ ผู้นำชุมชน ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ตัวแทนกลุ่มอาชีพ รวม19 คน โดยเลือกแบบเจาะจง 2) ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอนภาษาอังกฤษ จำนวน 5 คน และ 3) ยุวชนท้องถิ่นซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดคลองคาง รวม 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีดังนี้ 1) แบบสอบถามข้อมูลบริบทและศักยภาพของท้องถิ่น เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ 2) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างเกี่ยวกับบริบท ศักยภาพและความต้องการของชุมชน 3) แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม 4) แบบทดสอบวัดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเป็นข้อสอบปรนัย 4 ตัวเลือก และ 5) แบบประเมินคุณภาพหลักสูตร เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์เนื้อหา และการทดสอบที กรณีกลุ่มตัวอย่างไม่เป็นอิสระต่อกัน
รายชื่อนักวิจัยในโครงการ :
ลำดับที่
รายชื่อ
ประเภทนักวิจัย
บทบาทหน้าที่
สัดส่วน
1
นางสาวธิดากุล บุญรักษา
นักวิจัยภายในมหาวิทยาลัย
หัวหน้าโครงการวิจัย
50%
2
นางสาวพรพรรณ โพธิสุวรรณ
นักวิจัยภายในมหาวิทยาลัย
ผู้ร่วมวิจัย
50%
สถาบันวิจัยและพัฒนา
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ศูนย์การศึกษาย่านมัทรี
398/1 หมู่ 3 ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี
จังหวัดนครสวรรค์ 60130
หมายเลขโทรศัพท์
056-219100 ต่อ 1139 งานวิจัย
website
rdi.nsru.ac.th
Smart Rdi Nsru