มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
สถาบันวิจัยและพัฒนา
ระบบจัดการงานวิจัย
NSRU
RESEARCH
หน้าหลัก
ค้นหารายการ
ข้อมูลงานวิจัย
ข้อมูลนักวิจัย
รายงานสถิติ
งานวิจัย
งานทรัพย์สินทางปัญญา
เข้าสู่ระบบ
รายละเอียดโครงการวิจัย
ชื่อโครงการ (ภาษาไทย) :
การศึกษาพัฒนาการใช้อาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตในสัตว์เคี้ยวเอื้อง
ชื่อโครงการ (ภาษาอังกฤษ) :
Research and Development of urea-molasses mineral block mixed herbs to increase the efficiency of production in ruminant
หน่วยงานเจ้าของโครงการ :
คณะเทคโนโลยีการเกษตรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
ลักษณะโครงการวิจัย :
โครงการวิจัยเดี่ยว
ลักษณะย่อยโครงการวิจัย :
ไม่อยู่ภายใต้แผนงานวิจัย/ชุดโครงการวิจัย
ประเภทโครงการ :
โครงการวิจัยต่อเนื่อง
วันเริ่มต้นโครงการ :
17 กุมภาพันธ์ 2555
วันสิ้นสุดโครงการ :
16 กุมภาพันธ์ 2556
ประเภทของการวิจัย :
งานวิจัยประยุกต์
ความสำคัญและที่มาของปัญหา :
ปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ โค กระบือ ที่เหมือนกันคือในช่วงฤดูแล้ง จะขาดแคลนหญ้าและส่วนใหญ่จะให้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ต้นข้าวโพด เปลือกถั่ว เป็นแหล่งอาหารหยาบ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีคุณค่าทางอาหารต่ำ ทำให้สัตว์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นผลให้สัตว์มีการเจริญเติบโตที่มีดีนัก จึงได้มีการค้นคว้าเทคโนโลยีที่ใช้แก้ไขและปรับปรุงให้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มีคุณค่าทางโภชนะสูงขึ้นและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เช่น การสับ การหมักด้วยยูเรีย หรือให้กินร่วมกับอาหารเสริม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีและวิธีการที่หน่วยงานราชการต่างๆได้ส่งเสริมถ่ายทอดแก่เกษตรกรอย่างแพร่หลายเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ในช่วงฤดูแล้ง อาหารก้อนคุณภาพสูง (UMMB) ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกษตรกรเลือกใช้ ส่วนปัญหาในด้านสุขภาพสัตว์ที่เกษตรกรผู้เลี้ยงแพะมักพบบ่อย คือ ปัญหาพยาธิรบกวน ปัญหาท้องเสีย วิถีการเลี้ยงเลี้ยงแพะของเกษตรกรกรส่วนใหญ่เป็นลักษณะของการเลี้ยงเพื่อเป็นรายได้เสริม มีการลงทุนที่ไม่สูง บางรายอาจเลี้ยงตามใต้ถุนบ้าน ส่วนใหญ่ไม่มีการเสริมอาหารข้น แต่จะมีการให้แร่ธาตุก้อนบ้าง ปัญหาที่เกษตรกรไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาหารข้น และแร่ธาตุก้อนเป็นเพราะว่าเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อยาถ่ายพยาธิในแต่ละปีเป็นจำนวนเงินที่สูง ดังนั้นถ้าหากมีการรวมเอาแร่ธาตุก้อนผสมกับสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการป้องกัน กำจัดพยาธิ ก็จะส่งผลให้การเจริญเติบโตของแพะสูงตามไปด้วย แร่ธาตุนับเป็นปัจจัยในการช่วยสนับสนุนขบวนการในการดำรงชีพและให้ผลผลิตของสัตว์ แม้ต้องการในปริมาณที่น้อย แต่เป็นโภชนะที่จำเป็นโดยเฉพาะในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ซึ่งอาจได้รับไม่เพียงพอจากอาหารหยาบ กล่าวคือ ปริมาณแร่ธาตุในพืชอาหารสัตว์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของดินที่พืชเจริญเติบโต ชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต ลักษณะภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (Underwood, 1981) การขาดแคลนแร่ธาตุในสัตว์เคี้ยวเอื้องมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับองค์ประกอบและโครงสร้างของดิน โดยเฉพาะปริมาณแร่ธาตุในดินและปัจจัยอื่น เช่น ระดับ pH ปริมาณความชื้น และอินทรีย์วัตถุในดิน (McDowell และคณะ, 1980 ; Ammerman and Goodrich, 1983) พื้นที่ใดขาดแร่ธาตุบางอย่างก็จะทำให้สัตว์ที่กินพืชขาดแร่ธาตุนั้น ๆ ไปด้วย ซึ่งจะแสดงออกมาได้ เช่น ผสมติดยาก ซูบผอม กระดูกอ่อน โลหิตจาง โตช้า เป็นต้น ปัจจุบันการเสริมอาหารแร่นับว่าทำได้สะดวกขึ้น ทั้งรูปผงและก้อน แต่แร่ธาตุก้อนที่นิยมใช้ปัจจุบันมีน้อยและส่วนใหญ่ยังคงซื้อของต่างประเทศ ซึ่งมีราคาแพง การใช้แร่ธาตุผงซึ่งเกษตรกรสามารถผสมได้เองอย่างไม่ยุ่งยากอาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ ดังนั้นจึงได้ดำเนินการศึกษาหาวิธีการเสริมแร่ธาตุผงอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์ จึงทำการศึกษาทดลองในครั้งนี้ โดยศึกษาเปรียบเทียบวิธีการเสริมแร่ธาตุผงร่วมกับอาหารข้นและอาหารหยาบต่างชนิด เพื่อศึกษาสมรรถนะการผลิตตลอดจนต้นทุนการขุนแกะเพศผู้ตอน เป็นแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตปศุสัตว์ นำข้อมูลที่ได้เผยแพร่ส่งเสริม และแนะนำเกษตรกรทั่วไป การผลิตอาหารที่ปลอดภัย สมุนไพรจึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ การเลี้ยงสัตว์ ใช้ทดแทนสารเคมีในการป้องกันและรักษาโรค เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค นอกจากนั้น การใช้พืชสมุนไพรในการดูแลสุขภาพสัตว์ของเกษตรกรรายย่อยจะทำให้เกิดการพึ่งพาตนเอง ลดรายจ่ายการเลี้ยงสัตว์ และยังทำให้ลดการสั่งซื้อยาเคมีจากต่างประเทศ ฉะนั้นการส่งเสริมความรู้ สร้างกระบวนการ เรียนรู้ สร้างภูมิปัญญาใหม่ โดยใช้ฐานทุนที่มีอยู่ได้แก่ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรมของประเทศ สร้างสังคมฐานราก ให้เข้มแข็ง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน จะเป็นทางออกในมิติใหม่ภูมิปัญญาท้องถิ่น การทดลองครั้งนี้จึงจัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้สมุนไพรร่วมกับอาหารข้นอัดก้อนและศึกษาผลของการใช้อาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแพะเนื้อ ซึ่งเป็นแนวทางในการนำไปใช้ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและให้คำแนะนำแก่เกษตรกรเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ :
1. เพื่อลดการใช้ยาเคมีในการเลี้ยงสัตว์ 2. เพื่อทดสอบการใช้สมุนไพรในสัตว์ 3. เพื่อเพิ่มทางเลือกในการป้องกันหรือกำจัดพยาธิภายในให้แก่เกษตรกร
ขอบเขตของโครงการ :
งานวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาคุณค่าของโภชนะของอาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการป้องกันและกำจัดพยาธิ และทำการทดสอบผลของอาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพรในแพะ จากนั้นนำผลการวิจัยที่ได้นำเสนอและถ่ายทอดสู่เกษตรกร
ผลที่คาดว่าจะได้รับ :
1. ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อยาถ่ายพยาธิให้กับเกษตรกร 2. เพิ่มทางเลือกให้กับเกษตรกรเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น สมุนไพรในท้องถิ่น 3. เกษตรกรสามารถทำได้เอง 4. เผยแพร่ให้กับเกษตรกรที่สนใจด้วยการลงวารสารและจัดอบรม 5. สามารถพัฒนานำไปสู่การจดสิทธิบัตร 6. นำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ 7. เป็นองค์ความรู้ในการวิจัยและพัฒนาต่อไป
วิธีการดำเนินการวิจัย และสถานที่ทำการทดลอง/เก็บข้อมูล :
กิจกรรมที่ 1 การศึกษาคุณค่าทางโภชนะของอาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพร ทำการศึกษาสูตรอาหารข้นอัดก้อน + สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณในการป้องกันและกำจัดพยาธิ สูตรที่ 1 อาหารข้นอัดก้อน (UMMB) สูตรที่ 2 อาหารก้อนคุณภาพสูง + มะเกลือ สูตรที่ 3 อาหารก้อนคุณภาพสูง + เมล็ดมะขาม สูตรที่ 4 อาหารก้อนคุณภาพสูง + สะแกนา จากนั้นนำ UMMB + สมุนไพรทุกสูตรมาวิเคราะห์หาส่วนประกอบทางเคมี ความชื้น โปรตีน ไขมัน เยื่อใย เถ้า แคลเซียม และฟอสฟอรัสรวม ตามวิธีที่แนะนำใน AOAC (1989) กิจกรรมที่ 2 ผลของการใช้อาหารข้นอัดก้อนผสมสมุนไพรในแพะรุ่น อุปกรณ์และวิธีการ สัตว์ทดลอง ใช้แผนการทดลองแบบ Randomized Complete Block โดยใช้แพะอย่านมพันธุ์ลูกผสมพื้นเมือง + แองโกลนูเบียน อายุประมาณ 4 เดือน น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 12 กิโลกรัม จำนวน 20 ตัวแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มประกอบด้วยแพะเพศผู้ 2 เพศเมีย 2 รวม 4 ตัว เลี้ยงในคอกยกพื้น กลุ่มที่ 1 ไม่เสริม อาหารข้นอัดก้อน กลุ่มที่ 2 เสริมอาหารข้นอัดก้อน (UMMB) กลุ่มที่ 3 เสริมอาหารข้นอัดก้อนผสม + มะเกลือ กลุ่มที่ 4 เสริมอาหารข้นอัดก้อนผสม + เมล็ดมะขาม กลุ่มที่ 5 เสริมอาหารข้นอัดก้อนผสม + สะแกนา ก่อนเข้าทดลองแพะทุกตัวได้รับการถ่ายพยาธิ นำแพะเข้าปรับสภาพกับอาหารตามกลุ่มทดลองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ให้น้ำกินโดยอิสระ และวางอาหารข้นอัดก้อนให้สัตว์เลียกินอย่างอิสระ ให้อาหารหยาบกินเต็มที่ (อาหารหยาบตามฤดูกาล) เมื่อดำเนินการทดลองทำการบันทึกน้ำหนักก่อนและสิ้นสุด ใช้ระยะเวลาทดลองทั้งสิ้น 4 เดือน
คำอธิบายโครงการวิจัย (อย่างย่อ) :
เป็นโครงการวิจัยต่อเนื่อง
รายชื่อนักวิจัยในโครงการ :
ลำดับที่
รายชื่อ
ประเภทนักวิจัย
บทบาทหน้าที่
สัดส่วน
1
นางสาวชนณภัส หัตถกรรม
นักวิจัยภายในมหาวิทยาลัย
หัวหน้าโครงการวิจัย
100%
สถาบันวิจัยและพัฒนา
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ศูนย์การศึกษาย่านมัทรี
398/1 หมู่ 3 ตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหะคีรี
จังหวัดนครสวรรค์ 60130
หมายเลขโทรศัพท์
056-219100 ต่อ 1139 งานวิจัย
website
rdi.nsru.ac.th
Smart Rdi Nsru